ถาม – ตอบ การบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐแนวใหม่
************************
ตอบ ทรัพยากรพื้นฐานในการบริหารงานซึ่งประกอบ ด้วย
• คน (man)
• เงิน (money)
• วัสดุ (materials)
• เวลา (minutes)
• วิธีการจัดการ (management)
“คน” ถือได้ว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในกระบวนการบริหาร
ตอบ “การบริหารงานบุคคล” (personnel management) เป็น กระบวนการบริหารบุคคลที่อยู่ในองค์กร
พัฒนาการ แนวคิดใหม่
... สถานะทางการศึกษาที่สูงขึ้นของคนทางาน ทาให้เกิดและเปลี่ยนแปลงลักษณะงาน จากจุดเน้นที่เคยใช้ “แรง” ไปสู่รูปแบบของการใช้ “องค์ความรู้” เป็นฐานของการ ทางาน มีผลให้คนผูกพันกับตนเองมากขึ้น และลดความผูกพันกับผู้อื่นลง ... ทิศทางการบริหาร ทรัพยากรบุคคลในกระแสโลกาภิวัตน์เป็นไปในลักษณะของ “การลงทุน”ในคน เพื่อการพัฒนาองค์กรให้ “เรียนรู้” และ“เติบโต”อย่างต่อเนื่อง ...
การบริหารงานสมัยใหม่นั้น “ทรัพยากรบุคคล” ถือเป็นสินทรัพย์ (Asset) ขององค์กรที่มีสภาพเป็น “ทุน (Capital)” หรือ “ทุนมนุษย์” (Human Capital) มองบุคคลว่า ในแต่ละคน มีสิ่งมีคุณค่าสูงอยู่ภายใน ได้แก่ เทคโนโลยี ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และสมรรถนะที่แฝงอยู่ และมีความจาเป็นในการปฏิบัติงาน เช่น ทักษะเชิงเทคนิค นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และสมรรถนะในการเป็นผู้นำ
ตอบ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ หรือทรัพยากรบุคคลแนวใหม่ คล้ายการบริหารแบบเดิม แต่มีจุดมุ่งเน้นที่ต่างกัน วัตถุประสงค์ของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญ ได้แก่
๑) เพื่อสรรหาและคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ความ สามารถเข้ามาทางานในองค์กร (Recruitment and Selection)
๒) เพื่อใช้คนให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Utilization)
๓) เพื่อธำรงรักษาบุคคลที่มีความสามารถให้อยู่กับองค์การนานๆ (Maintenance)
๔) เพื่อพัฒนาบุคคลให้มีความรู้ความสามารถ (Development)
ตอบ
ตอบ หมายถึง “การทำให้คนในองค์การสามารถปรับตัว และเอาชนะปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่มากระทบองค์การ โดยใช้ทักษะ แรงจูงใจ และการให้บุคลากรได้มีส่วนร่วม”
“คือศิลปะการเลือกสรรคนใหม่ และใช้คนเก่าในลักษณะให้ได้ผลงาน จากบุคคลเหล่านั้นให้มากที่สุดทั้งปริมาณ และคุณภาพ”
ตอบ หลักการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐแนวใหม่ ได้แก่
1. หลักคุณธรรม (Merit Based) (สานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการใช้คาภาษาอังกฤษว่า "Vertue")
2. หลักกระจายอำนาจ (HR Decentralization)
การบริหารทรัพยากรบุคคลแนวใหม่ต้องมีการมอบอำนาจและกระจายอำนาจการ บริหารทรัพยากรบุคคล ให้ส่วนราชการและจังหวัดมากขึ้น เพื่อความคล่องตัวรวดเร็วเหมาะสม กับภารกิจในแต่ละพื้นที่ตามลักษณะเฉพาะของแต่ละส่วนราชการและจังหวัด
3. หลักผลงาน (Performance Based)
การบริหารภายใต้หลักผลงานนี้ ต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสม มีอำนาจจำแนก ผลงาน และมีค่าความเชื่อมั่นที่สามารถนาไปใช้พิจารณาประกอบการแต่งตั้งโยกย้ายได้อย่าง เป็นธรรม
4. หลักความสมดุลระหว่างคุณภาพชีวิตกับการทำงาน (HRM Flexibility)
การบริหารทรัพยากรบุคคลที่ดี ต้องทาให้บุคลากรทุกคนในองค์กร มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสวัสดิการที่อำนวยความสะดวกสบายพอควร สมดุลกับชีวิตราชการที่เจริญก้าวหน้าตามโอกาสที่เสมอภาค
5. หลักสมรรถนะ (Competency Based)
เพื่อเป็นกรอบการปฏิบัติเกี่ยวกับการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายบุคคลให้มีคุณ สมบัติตรงตามความต้องการในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิผล ซึ่งในการบริหารทรัพยากรบุคคล ต้องใช้เครื่องมือที่ถูกต้องเหมาะสมในการกำหนดสมรรถนะ รวมทั้งพัฒนาบุคลากรให้มีสมรรถนะตามต้องการอีกด้วย
ตอบ หลักคุณธรรมนี้ต้องประกอบด้วย
• หลักความเสมอภาคในโอกาส
• หลักความสามารถ
• หลัก ความมั่นคงในอาชีพ
• หลักความเป็นกลางทางการเมือง
ตอบ - การสรรหาคัดเลือก เพื่อให้ได้คนดี คนเก่งเข้ามาปฏิบัติงานในองค์การ
• การรักษาคนไว้ในองค์การ เพื่อธำรงรักษาคนดี คนเก่งให้เต็มใจ ทุ่มเทปฏิบัติ งานผลักดันองค์กรให้เจริญ ก้าวหน้าไปตามเป้าหมาย
• การใช้ประโยชน์ เพื่อนาศักยภาพของบุคลากรที่มีคุณภาพเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาองค์กรอย่างเต็มที่ ตรงตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ขององค์กร
• การอบรม และพัฒนา เป็นการลงทุนด้านทุนมนุษย์ ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ทวีศักยภาพส่งผลให้องค์กรเจริญ ก้าวหน้า
ตอบ 1. การออกแบบการวิเคราะห์และการวิเคราะห์เพื่อจัด แบ่งตำแหน่งงาน (Task Specialization Process)
2. การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Planning) รวมถึงการวางแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning)
3. การสรรหาและคัดเลือกคนเก่ง คนดี (Recruitment and Selection Process)
4. การปฐมนิเทศบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายและประเมินผล การปฏิบัติงาน (Induction or Orientation and Appraisal Process)
5. การฝึกอบรมและการพัฒนา (Training and Development Process)
6. กระบวนการทางด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และแรงงานสัมพันธ์ (Health, Safety Maintenance Process and Labor Relation)
7. การควบคุมวินัย และการประเมินผล (Discipline Control and Evaluation Process)
ตอบ การวางแผนและการจัดการสืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning and Management: SP) เป็นกระบวนการที่ช่วยสร้างความมั่นคงในการครองตำแหน่งให้กับบุคลากร
(๑) จัดทำข้อตกลง (Make the Commitment)
(๒) กำหนด “งาน และ คน” ในปัจจุบันให้ชัดเจน (Clarify the Work/People Now)
(๓) ประเมินผลการปฏิบัติงาน (Appraise Performance)
(๔) กำหนด “งาน และ คน” ในอนาคตให้ชัดเจน (Clarify the Work/ People Needed in the Future)
(๕) ประเมินศักยภาพ (Assess Potential)
(๖) วางแผนเพื่อการพัฒนา (Plan for Development)
(๗) ประเมินผลการดาเนินงาน (Evaluate the Program)
ตอบ ๑) องค์กรระบุชัดเจนว่า “ทำไม” โครงการบริหารจัดการผู้มีศักยภาพสูงจึงมีความจาเป็น บนพื้นฐานของการประเมินหรือความเสี่ยง
๒) องค์กรระบุ “เป้าหมาย” ของโครงการบริหารจัดการผู้มีศักยภาพสูงเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีข้อตกลงจาก CEO และผู้บริหารระดับสูงว่ามีเป้าหมายอย่างไร
๓) องค์กรระบุ “บทบาทแน่นอน” ที่ CEO จะเข้ามามีบทบาทในโครงการบริหารจัดการผู้มีศักยภาพสูง
๔) องค์กรกำหนด “วัตถุประสงค์โครงการบริหารจัดการผู้มีศักยภาพสูงที่จัดลำดับความสำคัญชัดเจนและ/หรือวัดได้”
๕) องค์กรมี “กลุ่มหรือบุคคลเป้าหมาย” สำหรับโครงการบริหารจัดการผู้มีศักยภาพสูง และกลุ่มหรือบุคคลเป้าหมายนี้เป็น “กลุ่มผู้ปฏิบัติงานที่ดีเลิศในองค์กร”
๖) องค์กรจัดทา“แผนงานสำหรับบุคลากรในอนาคต” โดยการพัฒนารูปแบบสมรรถนะสำหรับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
๗) องค์กรบูรณาการ “การบริหารและการประเมินผลการปฏิบัติงาน” เข้ากับรูปแบบสมรรถนะ สำหรับกลุ่มเป้าหมาย
๘) องค์กรเตรียม “แผนปฏิบัติการที่ยืดหยุ่น” เพื่อดำเนินการโครงการบริหารจัดการผู้มีศักยภาพสูง โดยตระหนักว่าการดำเนินการทั้งระบบไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงชั่วพริบตา
๙) องค์กรกำหนด “ตารางการทบทวน (สม่ำเสมอ)” เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ของโครงการบริหารจัดการผู้มีศักยภาพสูง
๑๐) องค์กรสร้างระบบเตรียมการ “แผนพัฒนารายบุคคล” เพื่อการจัดเตรียมผู้มีศักยภาพสูงในองค์กรอย่างเป็นระบบ
๑๑) องค์กรสร้างวิธีการ “การประเมินรายบุคคลต่อสมรรถนะที่จาเป็นต้องมีในระดับที่สูงขึ้น” ผ่านการประเมินอย่างเป็นระบบ อาทิ การประเมิน ๓๖๐ องศา ศูนย์การประเมิน หรือวิธีการอื่นใด ซึ่งจะหลีกเลี่ยงการนาบุคลากรสำหรับอนาคตมาปฏิบัติเสมือนผู้ครองตำแหน่งในปัจจุบัน
๑๒) องค์กรเลือก “ประสบการณ์งานสร้างสมรรถนะ” ที่เหมาะสมซึ่งจะสร้างความเข้มแข็งให้แก่บุคคลในขณะที่ปฏิบัติงานบรรลุผลสำเร็จ